ไฮโซลูกนัท ไฮโซชื่อดังได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊กโต้ตอบ สล็อตแตกง่ายนิพิฏฐ์ หลังจากที่ ไฮโซลูกนัท ยกมือไหว้ ณัฐวุฒิ และขอโทษที่ออกมาร่วมชุมนุมกับ กปปส. นาย ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ลูกนัท ไฮโซชื่อดัง อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตสมาชิกกลุ่ม New Dem ได้โพสต์เฟซบุ๊กข้อความถึง นาย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ไฮโซลูกนัทที่ ขอโทษ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงหรือ นปช. รวมถึงออกมาขอโทษที่ตนเคยออกไปร่วมชุมนุม กปปส. เมื่อช่วงปี 2556 – 2557 ที่ผ่านมา
โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “ขอโทษผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตามแต่ ไม่ควรถูกมองว่าผิดเลยนะครับ ท่านเองก็เคยติเตือนผมว่า เวลาผมทำอะไร อย่าให้มันดู ก้าวร้าว ให้มาก มันจะดูไม่ดี ดังนั้นการขอโทษของผม จึงเหมาะสมนะครับ
ผมแค่ไม่อยากให้ท่านต่อต้านการที่เด็กคนนึง จะขอโทษผู้ใหญ่ที่เราเคยเสียมารยาท และ พูดจาก้าวร้าวใส่เขา และประเทศไทย เจ็บช้ำกันมามากพอแล้ว ควรถึงวันที่ เราจะต้องสามารถหันหน้าเข้าหากัน ก้าวผ่าน ความขัดแย้ง และให้อภัยซึ่งกันและกันได้แล้วสักที ความสามัคคีของคนในประเทศเท่านั้นคือทางออกของประเทศไทยครับ
*ขอเพิ่มเติมนะครับ สำหรับผม จะผิดไม่ผิด ก็ขอโทษได้ครับ คำขอโทษสวยงามเสมอ”
ก่อนหน้านี้ นาย นิพิฏฐ์ ออกมาประกาศกร้าวว่าตนไม่เคยเสียใจที่ออกมาร่วมชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. พร้อมพาดพิงถึงไฮโซลูกนัท ว่ารู้สึกตกใจที่เห็น ไฮโซชื่อดังยกมือไหว้แกนนำ นปช.
จากที่ผมดูตัวเลขการอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินจำเป็น และรายการแก้ปัญหาโควิด-19 ของปีงบ 64 ที่ตั้งเอาไว้รวมกัน 140,000 ล้านบาท จากที่ผมสืบค้นได้ใน มติ ครม. (นอกจากนั้นจะมีเอาไปใช้ในทางลับอะไรอีกผมไม่ทราบ) พบว่ามีการอนุมัติแค่ 46,000 ล้านบาท หรือไม่ถึง 1 ใน 3 ของงบกลางที่ขอในปี 64 ไม่นับว่ามีเอกสารสำนักงบประมาณของรัฐสภารายงานว่า ณ วันที่ 30 มิ.ย. 64 มีการเบิกจ่ายแค่ประมาณ 12,000 ล้านบาทเท่านั้น (ไม่ถึง 10%)
นี่ยังไม่นับ พ.ร.ก. เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลออกมาได้จะ 3 เดือนแล้ว แต่ยังเป็น black box หรือ “พื้นที่ดำมืด” ที่เรายังไม่ทราบว่ารัฐบาลเอางบไปทำอะไรบ้าง
ทุกปัญหา เราต้องแก้ให้ตรงจุด ตอนนี้ปัญหาวิกฤตของประเทศไม่ใช่ปัญหางบประมาณ แต่เป็นปัญหาเรื่องความสามารถของผู้นำและคณะ ผมจึงขอเสนอไปยังทุกท่านว่า ถ้าเราอยากออกจากวิกฤตนี้ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำและคณะ คืนอำนาจให้ประชาชนรวมถึงแก้ไขปัญหาโครงสร้างการเมืองไทยโดยเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้มีอำนาจ แต่ไร้ความสามารถกลุ่มเดิมกลับมาได้อีกครับ
ตามนัด! ‘ศรีสุวรรณ’ ยื่นสอบทั้งจังหวัด กรณี ‘แน่งน้อย’ ฉีดวัคซีนเข็มสาม
ศรีสุวรรณ บุก ปปช. เพื่อร้องยื่นสอบจังหวัดพิษณุโลกทั้งจังหวัด จากกรณีที่ แน่งน้อย ออกมายอมรับว่าตนได้รับวัคซีนโควิดเข็มสามจริง ส.ค.นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ตั้งคำถามหลังจากที่ แน่งน้อย อัศวกิตติกร เลขาฯ กปปส. พิษณุโลก ออกมายอมรับว่าเข้ารับฉีดวัคซีนเข็มสาม จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก
โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “ตามที่โซเชียลมีเดียและสื่อมวลชนได้รายงานว่า มีบุคคลซึ่งไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์หรือพยาบาลในจังหวัดพิษณุโลก ได้ไปขอให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้ตัวเอง อ้างว่ามีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ที่ศูนย์รับฉีดวัคซีน หอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมานั้น
กรณีดังกล่าว ชี้ให้เห็นช่องว่างของการกำหนดหลักเกณฑ์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 3 ของกระทรวงสาธารณสุขและกรมควบคุมโรคโดยชัดแจ้ง เป็นกรณีที่ซ้ำรอยเดิมคล้ายจังหวัดบุรีรัมย์ที่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้กับตำรวจซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ แต่ใช้ช่องว่างของหลักเกณฑ์เหมือนกันที่อ้างว่า “เป็นบุคคลด่านหน้า” เพื่อเลี่ยงบาลีอย่างหน้าด้านๆ และไม่ละอายต่อพี่น้องประชาชนคนพิษณุโลกรายอื่นๆ กว่า 80% ที่แม้แต่เข็มแรกก็ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
แม้บุคคลดังกล่าวจะออกมายอมรับโดยให้เหตุผลว่าทำงานด่านหน้ามาโดยตลอด ต้องนำสิ่งของต่าง ๆ จากการบริจาคไปมอบให้กับจุดคัดกรอง หรือโรงพยาบาลสนาม และด้วยความเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งที่ผ่านมาการฉีดวัคซีนนั้นตนมีคิวที่จะฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าอยู่แล้ว แต่ด้วยช่วงแรก ๆ ประชาชนออกมาฉีดวัคซีนน้อย จึงมาช่วยรณรงค์ให้ประชาชนหันมาฉีดวัคซีนให้มากขึ้น ด้วยการไปฉีดวัคซีนซิโนแวคแทนทั้ง 2 เข็ม โดยมีแพทย์มาบอกตนเองว่าการเป็นผู้สูงอายุ ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มนั้นไม่ดี อาจเสี่ยงต่อภูมิคุ้มกันเหลือน้อย เนื่องจากเป็นผู้สูงอายุ ตนจึงได้ขอเข้าไปฉีดวัคซีนเข็ม 3
การอ้างเหตุผลว่าคนพิษณุโลกออกมาฉีดวัคซีนน้อยนั้น เป็นการกล่าวอ้างแบบน้ำขุ่นๆฟังไม่ขึ้น เพราะคนพิษณุโลกส่วนใหญ่ต้องการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กันทั้งนั้น เพียงแต่ภาครัฐยังจัดสรรวัคซีนไปให้น้อยไม่เพียงพอต่างหาก การไปแย่งฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 โดยไม่คำนึงว่ายังมีคนอื่นอีกมากที่ยังไม่ได้ฉีดเลย โดยอ้างเหตุผลนานาสารพัดนั้น ไม่ใช่วิสัยของคนที่ทำงานเสียสละเพื่อสังคมพึงกระทำ อย่าให้พวกเด็กๆมันตำหนิได้ว่าแก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นานสล็อตแตกง่าย