รวบตัว ‘คิว อ่างทอง’ เปิดเพจล่อลวงเด็กชายทำอนาจาร-ส่งบำเรอลูกค้า

รวบตัว ‘คิว อ่างทอง’ เปิดเพจล่อลวงเด็กชายทำอนาจาร-ส่งบำเรอลูกค้า

วันนี้ (23 ส.ค.) ตำรวจอ่างทองได้เข้าจับกุมตัวนายชิษณุพงศ์ หรือคิว นาคเกษม อายุ 27 ปี และนายธีรวัฒน์ อายุ 19 ปี ได้ที่หน้าห้องพักในรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง หลังมีการสืบทราบว่าทั้งสองมีพฤติกรรมล่อลวงเด็กและเยาวชนชายเพื่อค้าบริการทางเพศผ่านช่องทางเฟซบุ๊กในกลุ่มปิดชื่อ ‘เกย์เด็กนวดหางาน หาเด็กนวด ปฏิบัติงานในพื้นที่อ่างทอง’ และในแอพฯ บลูด์ (BLUED – Gay Chat & Dating)

เจ้าหน้าที่ได้แฝงตัวเข้าสืบสวนและพบบัญชีชื่อ ‘คิว อ่างทอง’ 

มีพฤติกรรมเสนอขายบริการทางเพศเด็กชายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยมักจะหาเด็กและเยาวชนจากหลายจังหวัดในภาคกลางมาร่วมเพศกับตนเองก่อน ก่อนที่จะนำไปค้าประเวณีต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการล่อซื้อเด็กชายจากพ่อเล้ารายนี้ โดยนัดหมายที่ห้องพักในรีสอร์ตดังกล่าว เมื่อถึงเวลานัด ก็พบว่าผู้ต้องหาทั้งสองคน นำเด็กมาส่งจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม

นายคิวสารภาพว่า ตนมีอาชีพรับจ้างจัดดอกไม้ตามงานต่างๆ ในจ.อ่างทอง และหารายได้เสริมด้วยการหาเด็กชายมาขายบริการทางเพศให้กับชายที่มีรสนิยมรักร่วมเพศในพื้นที่จ.อ่างทอง รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง เช่น พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท สิงห์บุรี เป็นต้น

นายคิวได้ออกอุบายชักชวนเด็กชายอายุระหว่าง 14-16 ปี ว่าจะพาไปดัดฟันและซื้อโทรศัพท์มือถือให้ โดยราคาค่าบริการทางเพศของเด็กชายเหล่านี้อยู่ที่ครั้งละ 1,500-2,000 บาท และตกถึงมือเด็ก 300-500 บาท โดยทำมาแล้วเป็นเวลากว่า 3 ปี มีเด็กและเยาวชนที่ถูกนำไปค้าประเวณีประมาณ 10 คน คนละจำนวนหลายครั้ง

เบื้องต้น นายคิว ถูกแจ้งข้อหาหนัก 5 ข้อหา ซึ่งรวมถึง การค้ามนุษย์, ทำอนาจารเยาวชน, และเป็นผู้จัดหาการค้าประเวณี นอกจากนี้ฝ่ายภรรยายังเล่าว่า สามีเป็นคนอัธยาศัยดี ไปทำงานก็มีแต่คนรัก พูดจาไพเราะ อ่อนน้อม ส่วนข้อสันนิษฐานที่ว่าสามีเมาขับรถตกน้ำนั้น ตนไม่คิดว่าเป็นไปได้ เพราะแม้จะเมาหนัก สามีตนสามารถขับรถกลับบ้านได้ทุกครั้ง และรีสอร์ตนี้ก็อยู่ห่างจากบ้านแค่ 1 กม.เท่านั้น

ด้าน ด.ต.ถาวร ศรีวิเศษ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหนองน้ำใส เล่าว่า ในวันที่นายวันชัยหายตัวไป ตนอยู่กับนายวันชัยตั้งแต่ช่วงเย็น โดยช่วยกันห่อของขวัญเพื่อนำไปจับสลาก และเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงที่รีสอร์ตที่เกิดเหตุในเวลาประมาณ 18.00 น. จากนั้นทั้งสองก็นั่งดื่มสุราด้วยกันจนเกือบเที่ยงคืน แล้วตนก็แยกย้ายไปนอน ส่วนนายวันชัยนั้นยังคงร่วมร้องเพลงสังสรรค์อยู่ที่งาน ซึ่งตนเห็นว่านายวันชัยแม้จะเมาแล้ว แต่ก็ยังมีสติ

ด.ต.ถาวร ระบุว่ารถของนายวันชัยจอดอยู่ข้างรถตนซึ่งอยู่ห่างจากสระว่ายน้ำประมาณ 200 เมตร และคิดว่านายวันชัยอาจจะหลงทิศ และขับรถไปทางสระน้ำเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นทางออก ซึ่งจริงๆ แล้วสระน้ำนี้ นายวันชัยก็เป็นผู้รับเหมาขุดให้รีสอร์ตเอง จึงน่าจะรู้อยู่แล้ว แต่ช่วงเกิดเหตุอาจมีอาการมึนเมาบวกกับความมืดรอบๆ ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะใช่การฆาตกรรม แต่เป็นอุบัติเหตุ

นายหนุ่ม รักธรรม ทีมกู้ภัยทางน้ำหน่วยเฉพาะกิจ 01 มูลนิธิพุทธธรรม 31 ผู้เข้าไปกู้ร่างนายวันชัย เล่าว่า ตนได้รับแจ้งเหตุพบชิ้นส่วนมนุษย์ เป็นข้อเท้าอยู่ในรองเท้าด้านซ้าย จึงได้จัดชุดประดาน้ำไปค้นหาร่างผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สระน้ำดังยังอยู่ในลักษณะบ่อดิน ลึก 6 เมตรแต่มีระดับน้ำ 3 เมตร นักระดาน้ำ 5 คนได้ลงไปดำหาร่างโดยใช้เวลา 2 นาที ก็เจอรถกระบะลักษณะหัวทิ่มลงบ่อ กระจกด้านขวาเปิดค้างอยู่ ภายในรถมีชิ้นส่วนมนุษย์อยู่ติดเบาะคนขับ ลักษณะเป็นโครงกระดูกมีเนื้อติดบางส่วน ขาทั้ง 2 ข้างพาดไปทางพวงมาลัย

4 วัยรุ่นควงปืน-มีดปลอม ปล้นเหล้า ทำร้ายร่างกาย ครึ่งกลมก็จะเอา

วันนี้ (22 ส.ค.) วัยรุ่น 2  ราย ที่บุกปล้นทรัพย์และทำร้ายเจ้าทรัพย์ภายในปั๊มน้ำมัน ปากซอยสะแกงาม14 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.แสมดำ โดยเบื้องต้นวัยรุ่นทั้ง 2 รายแรก ประกอบด้วย นาย ธีระศักดิ์ หรือ บิว นามปัญาหา อายุ 20 ปี และ นายตั้ม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี  ได้นำของกลางคือ อาวุธปืน บีบีกัน และอาวุธมีดหัวตัดความยาว 60 ซม. พระเหรียญ 1 องค์ เสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุมามอบตัว

หลังจากสืบสวนขยายผล สามารถจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้เพิ่มเติมคือ นาย ชิงชัย หรือแชมป์ หาญกล้า อายุ 20 ปี และนาย สิทธิศักดิ์ หรือ หนึ่งบำรุงกูล 20 ปี พร้อมของกลางส่วนที่เหลือ

นายธีรศักดิ์สารภาพว่า ทั้ง 4 เป็นพนักงานประกอบเฟอร์นิเจอร์ โดยทำงานคนละโรงงานกัน ก่อนเกิดเหตุนั้นพวกตนนั่งดื่มเบียร์ใกล้ตลาดสะแกงามตั้งแต่สี่ทุ่ม เมื่อเริ่มเมาก็ชวนกันขี่รถเล่น ตนนั้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์นายตั้ม ส่วนอีกคันหนึ่ง นายศักดิ์สิทธิ์เป็นคนขี่ ก่อนที่ทั้งหมดจะแวะเข้าปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ

หลังเติมน้ำมันเสร็จ พวกตนก็ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าห้องน้ำปั๊ม เห็นผู้เสียหาย 2 คนนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ ตนและเพื่อนได้ถือปืนและมีดปลอมเข้าไป ใช้ปืนตบหน้าและทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย นายศักดิ์สิทธิ์ตามมาสมทบช่วยตน หลังก่อเหตุ ตนได้กระชากเอาพระเหรียญและเหล้าอีกครึ่งขวดของผู้เสียหายไป

ส่วนนายศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ปล้นเอาโทรศัพท์มือถือซัมซุง เอส7 และกระเป๋าเงิน ซึ่งมีเงิน 600 บาทพร้อมเอกสารภายในไป แล้วทั้งสองก็แยกย้ายกันหลบหนี กระทั่งมีวีดิโอที่พวกตนก่อเหตุเผยแพร่ในโลกโซเชียล ซึ่งเผยให้เห็นหน้านายตั้มและนายชิงชัยอย่างชัดเจน ตนและนายตั้มจึงตัดสินใจมอบตัว

หลังจากเหตุการณ์ปล้นทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น ผู้เสียหายทั้งสองคนคือ นายวรพงษ์ กันยาเถื่อน อายุ 19 ปี และนายมนตรี ไกรยาบุตร อายุ18 ปี ได้เข้าแจ้งความที่สน.แสมดำ ก่อนที่จะมีการเผยแพร่คลิปวีดิโอเหตุการณ์การปล้นในเวลาต่อมา

แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม